คิดถึงออกพรรษาเมื่อครั้งยังเยาว์
วันนี้ 23 ตุลาคม 2554 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ไปไหนไม่ได้ เพราะบ้านที่สุพรรณ ฯ น้ำท่วม ทางบ้านไม่ให้กลับ ในขณะเดียวกัน ที่บริเวณเกาะเมืองอยุธยา ซึ่งมาอาศัยในเวลาทำงาน ก็เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมเช่นกัน
การสอบถามข่าวคราวน้ำท่วมกับทางบ้านใช้เพียงโทรศัพท์ ตอนเช้าหุงข้าว ตุ๋นไก่ ไปใส่บาตร แล้วขับรถตระเวณดูระดับน้ำรอบ ๆ เกาะเมือง แล้วออกไปอีกรอบ ตอนช่วงบ่าย เฮ้อ! จะรอดไหมเนี่ย
ออกพรรษาอย่างนี้ น้ำหลากอย่างนี้ ทำให้ความคิดแวบไปถึงเทศกาลออกพรรษาในวัยเยาว์ ความจริงฉันเป็นคนที่จำเรื่องในวัยเด็กได้น้อยมาก เมื่อเทียบกับน้อง ๆ หากในวงสนทนาของครอบครัว มีการพูดถึงความหลังครั้งเยาว์วัย ดูเหมือนฉันจะเป็นคนเดียวที่ไม่ค่อยมีเรื่องเล่า จะทำหน้าที่เป็นผู้ฟัง แต่เทศกาลออกพรรษา กับประเพณีขอทานขนมห่อ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่อยู่ในความทรงจำแม้จะขาดรายละเอียดไปบ้างก็ตาม
ก่อนถึงวันออกพรรษา แม่จะเตรียมอาหาร และทำขนม เช่น ข้าวต้มมัด ที่บางคนเรียกว่าข้าวต้มผัด ขนมเทียน หรือที่บ้านเรียกขนมห่อ เพื่อเตรียมไปตักบาตรเทโว ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 บางปีที่น้ำมากพระสงฆ์ท่านไม่สามารถจะเดินรับบาตรจากกุฏิที่มีชาวบ้านตั้งแถวรอใส่บาตรเป็นแถวยาวถึงศาลาการเปรียญได้ ก็จะตักบาตรกันรอบ ๆ หอสวดมนต์
ในคืนวันก่อนออกพรรษา คืนวันออกพรรษา และยาวไปถึงหลังออกพรรษา 1 คืน ในแม่น้ำท่าจีน จะมีเรือแปะ ที่บรรทุกหนุ่ม ๆ มาลำละ หลายๆ คน พากันปรบมือ ตีกลอง ตีฉิ่ง ตีฉาบ แล้วจะจะหาเครื่องดนตรีชนิดไหนได้ ที่ไม่หนักและเกะกะ ร้องเพลงกันมา เมื่อครั้งยังเด็กมาก ๆ จะมีคืนละหลาย ๆ ลำ พายมาเทียบชานบ้าน หรือหน้าบ้าน ที่อยู่ริมแม่น้ำ ซึ่งถ้าปีใดน้ำมาก สามารถพายเรือเทียบนอกชานได้เลยทีเดียวเพื่อขอขนมห่อ หรือข้าต้มมัด จากแต่ละบ้าน บ้านไหนมีลูกสาว ก็มักจะมีเรือขอทานขนมห่อแวะมาหลายลำ
จำได้ว่าในคืนอย่างนี้ พ่อ แม่ และลูก ๆ มักจะนั่งชมจันทร์ที่นอกชานบ้าน ฟังเพลงจากเรือขอทาน ฟังนิทานจากพ่อและแม่ ที่บ้านมีเรือขอทานแวะเวียนมาหลายลำเหมือนกันเพราะมีลูกสาว 3 สาว เพียงแต่สาวที่3 อย่างฉันยังเด็กมากเหลือเกิน
พ่อจะมีลูกเล่นกับพวกขอทานอยู่บ่อย ๆ เช่นทำทีเหมือนถือชามไป แต่ขอเช็คดูในปี๊บใส่ขนมของหนุ่มขอทาน ว่าขอดูซิได้ขนมเยอะไหม จากนั้นก็จะล้วงเอาขนมของพวกขอทานออกมาใส่ชามที่ถือไป บอกว่าพอดีบ้านลุงไม่ได้ทำขนมขอแบ่งมาบ้างแล้วกัน ก็จะเรียกเสียงหัวเราะจากบรรดาหนุ่มขอทานได้ บรรดาหนุ่ม ๆ ขอทานเหล่านี้จะมีการสวมหมวก โพกผ้า หรือปิดหน้าเพื่ออำพรางใบหน้า แต่ส่วนใหญ่ก็จะรู้ว่าเป็นใคร เนื่องจากมักเป็นผู้คุ้นเคยกันอยู่แล้ว และเป็นช่วงที่เดือนหงาย ก็จะสามารถมองเห็นใบหน้ากันได้ค่อนข้างชัดเจนบางทีพี่ชาย ที่เป็นหนุ่มแล้วก็ไปเป็นขอทานกับเขาด้วย
ขอทานขอขนมห่อนี้ หายไปน่าจะราว ๆ เมื่อฉันอายุได้สัก 14 - 15 ปี เคยถามผู้อาวุโสในแถบลุ่มน้ำ ๆ ทางอยุธยา ป่าโมก ก็ไม่มีใครรู้จักประเพณีนี้ น่าเสียดายที่ฉันจำรายละเอียดได้น้อยมากๆ คนเก่าคนแก่ ก็ทยอยล้มหายตายจากไปเกือบหมด แต่หากสามารถหารายละเอียดได้มากกว่านี้ จะเพิ่มเติมให้ในโอกาสต่อไป
เกี่ยวกับฉัน
- เกษรา
- สุพรรณบุรี, Thailand
- ผู้หญิงอายุเยอะ น้ำหนักมาก รักแมว ชอบเที่ยวป่า ดูนก แต่ไม่ตกปลา เกิดที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช สุพรรณบุรี เป็นลูกคนแรกที่แม่ไปคลอดที่โรงพยาบาล โดยไม่ผ่านมือหมอตำแย เป็นคนสุพรรณฯ เลือดร้อย เรียนอนุบาลและป.1 ที่โรงเรียนอนุบาลเสริมศึกษา(ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว) ป.2-7 ที่โรงเรียนวัดสุวรรณภูมิ(ปัจจุบันคือโรงเรียนสุพรรณภูมิ ม.ศ.1-5 ที่โรงเรีงเรียนสงวนหญิง คบ.เอกเกษตรศาสตร์ จากวิทยาลัยครูพระนคร ศศบ. สารนิเทศาสตร์ จาก มสธ. กศม. การศึกษาผู้ใหญ่ จาก มศว. ปรด. จะจบหรือเปล่าไม่รู้ ที่ไหนยังไม่บอก เดี๋ยวจะทำสถาบันเสื่อมเสีย
วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553
คิดถึงออกพรรษาเมื่อครั้งยังเยาว์ กับประเพณีขอทานขนมห่อ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น